สำหรับบางคนคิดว่าการเลี้ยงน้องหมาขนสั้นไม่จำเป็นจะต้องดูแลรักษาขนมากเหมือนการเลี้ยงสุนัขขนยาว โดยเฉพาะฤดูร้อนซึ่งเป็นช่วงที่น้องหมาจะผลัดขนออกมามากเป็นพิเศษ ฉะนั้นเราจึงควรรู้จักวิธีการดูแลสุนัขขนสั้นโดยมีวิธีการตามนี้

1. อย่าให้น้องหมานอนอาบแดด

หมาขนสั้นมีโอกาสที่จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังมากกว่าหมาขนยาว โดยเฉพาะหมาที่มีขนสีอ่อน เช่น สีขาว ครีม สาเหตุมาจากแสงแดดเป็นตัวสำคัญที่จะกระตุ้นให้เกิดโรคมะเร็ง ดังนั้นการดูแลจึงควรหลีกเลี่ยงให้น้องหมาขนสั้นอยู่ท่ามกลางแสงแดดในช่วงบ่ายที่อากาศร้อนจัด และอาจปกป้องผิวหนังของน้องหมาด้วยการทาครีมกันแดดสูตรสำหรับเด็กควบคู่ไปด้วยก็ได้

2. อาบน้ำให้ในเวลาที่เหมาะสม

หลายคนคิดว่ายิ่งอากาศร้อน ยิ่งควรต้องอาบน้ำให้น้องหมาบ่อยๆ ซึ่งเป็นวิธีการที่ผิดเพราะการอาบน้ำให้น้องหมาบ่อยๆ จะเป็นการทำลายไขมันที่ธรรมชาติสร้างมาเพื่อเคลือบผิวหนังและเส้นขน ส่งผลทำให้เส้นขนแห้งหยาบ ขาดความเงางาม ฉะนั้นในช่วงหน้าร้อนควรอาบน้ำเพียงแค่เดือนละ 1-2 ครั้งในอุณหภูมิปกติ หรือถ้าน้องหมาไปเล่นสกปรกมากจริงๆ ก็ให้ใช้เป็นโฟมอาบแห้งแทน รวมถึงอย่าลืมแปรงขนให้กับน้องหมาเพื่อจะได้ไปนวดบริเวณต่อมไขมัน ทำให้ไขมันที่ถูกขับออกมาเคลือบเส้นขนให้เงางาม

3. ดูแลอย่าให้น้องหมาไปเล่นซน

ในช่วงหน้าร้อนเป็นช่วงที่ผิวหนังของน้องหมาขนสั้นจะมีผิวหนังที่แห้งและอ่อนแอ หากน้องหมาออกไปเกลือกกลิ้งเล่นที่พื้น ผิวหนังของน้องหมาก็จะถูกขูดขีดจนเป็นบาลแผล หรือเกิดอาการแพ้ เช่น คัน ผื่นขึ้น บวม แดง อักเสบ จนอาจจะทำให้เกิดขนร่วงได้ในที่สุด

4. เสริมอาหารที่มีส่วนผสมบำรุงผิวหนัง

อาหารก็เป็นหนึ่งในตัวแปรที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพผิวหนังและเส้นขนของน้องหมาในระยะยาว ดังนั้นเจ้าของจึงควรเลือกอาหารที่มีส่วนผสมช่วยบำรุงผิวและเส้นขนของน้องหมา เช่น อาหารมีส่วนผสมของ กรดไขมันโอเมก้า 3,6 DHA ที่จะช่วยบำรุงผิวหนังชุ่มชื้น ทำให้ขนเงางามนุ่มสลวย หรือเบต้าแคโรทีน ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง ทำให้น้องหมามีผิวหนังที่แข็งแรงขึ้น ลดการหลุดร่วงของเส้นขน เป็นต้น

การเลี้ยงน้องหมาไม่ว่าจะขนสั้นหรือขนยาวก็ต้องหมั่นดูแลให้มีสุขภาพดีตลอดเวลา ควรหาเวลาพาน้องหมาไปตรวจร่างกายทุกๆ 6 เดือน นอกจากจะดูแลเส้นขนแล้วต้องควบคุมน้ำหนักและสัดส่วนให้อยู่พอเหมาะด้วย เพื่อที่น้องหมาจะได้สุขภาพสมบูรณ์ทั้งจากภายนอกและภายใน